ถ้านมผสมมีอันตราย ทำไมแพทย์ส่วนใหญ่จีงแนะนำ

ในสมัยที่ยังไม่มีนมผสม แม่ทุกคนรู้วิธีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเป็นกิจกรรมที่จำเป็นต่อการรอดชีวิตและดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ปัจจุบันนี้ ในบางประเทศที่ยังไม่ถูกครอบงำด้วยการตลาดของนมผสม การที่ผู้หญิงไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือไม่รู้วิธีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องแปลกประหลาดหรือกระทั่งไร้สาระ เพราะ “ผู้หญิงทุกคนต้องรู้ว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไร”

เนื่องจากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นทักษะที่มนุษย์แต่ละรุ่นถ่ายทอดประสบการณ์ต่อ ๆ กันมา ดังนั้นในหลักสูตรแพทย์จึงไม่มีวิชาที่สอนเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือวิธีช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กุมารแพทย์เรียนรู้เฉพาะเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วยของทารก และการรักษาอาการเจ็บป่วยเหล่านั้น
ถึงแม้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็เหมือนกับทักษะอื่น ๆ ในการดำรงชีวิต ที่เราเรียนรู้จากการสังเกตและลงมือปฏิบัติจริง มากกว่าเรียนรู้จากการสั่งสอน ในสังคมที่การเลี้ยงลูกด้วยนมผสมกำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดา ทักษะที่เป็นพื้นฐานในการเอาตัวรอดและดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนี้กำลังสูญหายไป
กว่าหนึ่งชั่วอายุคนแล้วที่สังคมทั่วไปไม่มีภาพของเด็กทารกดูดนมแม่ให้เห็น มีแต่พ่อแม่ป้อนลูกด้วยขวดนม
เมื่อแม่มือใหม่ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไร หรือเข้าใจผิดว่าตัวเองไม่มีน้ำนม กุมารแพทย์ซึ่งไม่เคยเรียนเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จากหลักสูตรของแพทย์ และไม่เคยมีประสบการณ์จากการเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองมาก่อน จะไม่รู้ว่าจะช่วยแม่เหล่านั้นได้อย่างไร นอกจากสั่งนมผสมให้ทารก
ยิ่งไปกว่านั้นกุมารแพทย์บางส่วนได้รับแต่ข้อมูลด้านเดียวจากบริษัทผู้ผลิตว่า นมผสมเป็นสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก รองจากนมแม่ จะช่วยแก้ปัญหาให้แม่ที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว นมผสมคือต้นเหตุที่ทำให้แม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ และเนื่องจากการใช้นมผสมอาจเป็นอันตรายต่อทารก จึงควรใช้ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ นั่นคือกรณีที่แม่เสียชีวิต, แม่เป็นโรคร้ายแรงจนไม่สามารถให้นมลูกได้, แม่ที่รับลูกคนอื่นมาเป็นลูกบุญธรรม หรือกรณีแม่ที่ตัดสินใจว่าจะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น