ผลกำไรบนความเสี่ยงของทารก

นมผสม เป็นเพียง สารอาหารทดแทนนมแม่  ในสถานการณ์ที่จำเป็นด้านการแพทย์ การใช้นมผสมสามารถช่วยชีวิตเด็กได้ แต่ในทางกลับกัน การให้ทารกกินนมผสมแทนนมแม่ในกรณีที่ไม่จำเป็น ถือเป็น ความเสี่ยง ต่อสุขภาพของทารกอย่างแท้จริง  การจะให้ผู้คนยอมรับนมผสมซึ่งมีคุณสมบัติด้อยกว่านมแม่มากได้นั้น ผู้ผลิตต้องเปลี่ยนมุมมองการเลี้ยงดูเด็กเสียใหม่ โดยสร้างภาพความทันสมัยและความเหนือกว่าในแง่วิทยศาสตร์ให้เกิดในใจของผู้ให้บริการสาธารณสุขและพ่อแม่  บริษัทนมผสมใช้ช่องทางของระบบสาธารณสุขเป็นการเปิดตลาด ให้บุคลากรสาธรณสุขเป็นผู้แจกตัวอย่างฟรี เพื่อจูงใจให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมผสม  หลังคลอดบุตร แม่และทารกจะกลับบ้านไปพร้อมนมผสม แจกฟรี จำนวนหนึ่ง เมื่อนมผสมที่ได้รับแจกฟรีหมดลง ทารกก็ไม่ยอมดูดนมจากอกแม่แล้ว และต่อมน้ำนมขอแม่ก็เริ่มแห้งไปอีกด้วย ทำให้แม่ต้องกลับไปซื้อนมผสมเพื่อเลี้ยงทารกต่อไป  การให้ทารกกินนมแม่ถูกเปลี่ยนจากพฤติกรรมปกติธรรมดาเป็นขบวนการที่ยุ่งยากลำบากและล้าสมัย  ยอดขายนมผสมเติมโตอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของทารกที่เพิ่มสูงขึ้น  ตั้งแต่ ค.ศ. 1960 เป็นต้นมา อัตราการเลี้ยงลูดด้วยนมแม่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็วในหลาย ๆ ส่วนของโลก    ค.ศ. 1979 มีนมผสม ออกจำหน่ายถึง 50 ยี่ห้อ 200 ชนิดกระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลก  ค.ศ. 1994 องค์การอนามัยดลก รายงานว่าทุก ๆ ปี ทารก ประมาณ 1.5 ล้านคน เสียชีวิตเพราะไม่ได้กินนมแม่ ขณะที่อีกหลายล้านเป็นโรคขาดอาหารและโรคอื่น ๆ
*ทั้งในประเทศร่ำรวยและยากจน ทุก ๆ วันจะมีทารกต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายพันคน เนื่องจากได้รับอาหารหรือของเหลวอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ แผนกกุมารเวชกรรมไม่ได้เต็มไปด้วยทารกที่ได้กินแต่นมแม่ล้วน ๆ เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น